โอทูฟลาโวเจน ฉีด 3 วันเห็นผล เกษตรกรไทย มีเฮ





เปิดยุทธการสินค้าเกษตรมาแรง เมื่อ "โอทู ฟลาโวเจน" ระเบิดศึกตลาดเครือข่าย หรือขายตรงเต็มรูปแบบ "ดร.สยามรัฐ ป้านภูมิ" นักวิจัยเกษตรอินทรีย์ ออกโรงการันตี "โอทู ฟลาโวเจน" ฉีดพืช 3 วันเห็นผลต่างชัดเจน เพิ่มผลผลิตได้สูงสุดถึง 300 % ต้นปีหน้ามีข่าวใหญ่ เตรียมส่งยาฆ่าหญ้าผลิตจากธรรมชาติ 100% ฉีดวัชพืช 3 ชั่วโมงตายเรียบ ปลอดสารอันตรายกับคน "ฉัตรชัย ประเสริฐสุวรรณ" ประธานฯใหญ่ ลั่นมั่นใจเดินถูกทาง เดินเครื่องสร้างงานสร้างอาชีพให้เกษตรกรรวย ส่วน "ภณเอก สะอาดวงค์" รองประธานฯ ชี้ชัดกระแสตอบรับจากเกษตรกรดีสุดๆ ยอดขายทะลุทะลวง..."ขวัญชัย ปิยะทัศน์" ผอ.การตลาด วาดแผนรบส่งเสริมให้ผู้นำ "รวยลัดวงจร" มั่นใจภายใน 2-3 ปี เพียงผู้นำสร้างสายงาน 7 ชั้น ฟันรายได้เละ 88 ล้านบาท ปลายปีนี้เตรียมจัดงานใหญ่ฉลองความสำเร็จ

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อล่ะว่า "ขวดน้ำดำๆ" ขนาดบรรจุ 500 ซีซี เหมือนยาธาตุน้ำแดง จะมีฤทธิ์เดชสามารถเพิ่มผลผลิตพิชิตความร่ำรวยให้กับเกษตรกรไทยได้มากมายถึงเพียงนี้ สินค้าเกษตรที่กล่าวถึงคงเป็นอื่นไปไม่ได้ สิ่งนั้นก็คือ "โอทู ฟลาโวเจน" ของบริษัท โอทู อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด นั่นเอง

"โอทู ฟลาโวเจน" แค่เปิดตลาดได้เพียง 1 ปีเต็มๆ สามารถ "ติดชาร์ท" เป็นอันดับสองของกลุ่มบริษัทขายตรงที่ขายสินค้าเกษตรชนิดที่ใครก็คาดไม่ถึง ใครจะคิดบ้างล่ะว่า "อานุภาพ" ของ "โอทู ฟลาโวเจน" จะได้รับความนิยมในกลุ่มเกษตรกรไทยได้มากมายถึงเพียงนี้ "เพียงขวดเดียว" ใช้กับพืชทุกชนิดผลผลิตสูงสุดถึง 300 % ถือเป็น "นวัตกรรมใหม่" ล่าสุดของโลกการเกษตรในอนาคตเลยก็ว่าได้...

ดร.สยามรัฐ ป้านภูมิ เปิดเผย "ตลาดวิเคราะห์" ว่า ได้ทำงานวิจัยด้านการเกษตรครั้งแรกที่รัฐนิวยอร์ค สหรัฐฯ หลายปี หลังจากนั้นก็กลับมาทำงานวิจัยที่เมืองไทยได้ 4 ปี จากนั้นก็ได้ทุนการศึกษาด้านวิจัยจากญี่ปุ่น ไปทำงานใช้ทุนที่ญี่ปุ่นอยู่ 5 ปี จึงได้คิดค้นนวัตกรรมทางด้านการเกษตรใหม่ๆ เนื่องจากในปี 2020 ประชากรโลกจะเพิ่มเป็น 9,000 ล้านคน โลกต้องการอาหารเพิ่มเป็น 2 เท่า แต่พื้นผิวโลกไม่ได้เพิ่มมีแต่ลด ฉะนั้น นักวิทยาศาสตร์จึงพากันคิดค้นหาวิธีเพิ่มผลผลิต เพื่อมาหล่อเลี้ยงหมู่มวลมนุษยชาติในอนาคต

"หลังทำงานใช้ทุนหมด ผมก็กลับมาทำงานวิจัยที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งทางภาคเหนือเป็นเวลานับสิบๆ ปี เป็นการนำผลวิจัยที่มีอยู่แล้วบางส่วน มาต่อยอด มาพัฒนาให้ก้าวหน้าไปมากกว่าเดิม โชคดีที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก ด้วยการสกัดสารอินทรีย์จากพืชสมุนไพรหลายชนิด ที่เรียกว่า "สารฟลาโวนอยด์" พัฒนาอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันได้กลายเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อการเกษตรหนึ่งเดียวในเมืองไทย นั่นคือ "โอทู ฟลาโวเจน" เพื่อตอบสนองความต้องการของเกษตรกรไทย และเกษตรกรทั่วโลกที่ต้องการเพิ่มผลผลิต "

ดร.สยามรัฐกล่าวอีกว่า งานวิจัยมันมีขั้นตอน...ขั้นตอนแรก ต้องศึกษาในห้องปฏิบัติการก่อน หมายถึงห้องแล็ป ตรงนี้ต้องใช้เวลากว่า 2 ปี โดยได้ทุนวิจัยมาจากข้างนอก ได้ผลระดับหนึ่งแล้ว เพื่อความแน่ใจ ก็นำไปทดสอบที่แปลงทดลอง ในห้องปฏิบัติ การที่เป็นแปลงทดลอง หลังจากได้ผลในขั้นที่ 2 มั่นใจ 80% แล้ว ก็เป็นขั้นตอนสุดท้าย นำไปให้เกษตรกรตัวจริงใช้ คือ ทดลองกับแปลงเกษตรจริงๆ เลย ใช้เวลาอีก 1 ปี เบ็ดเสร็จแล้วใช้เวลาวิจัยกว่า 3 ปี ส่วนผลการทดสอบอย่างที่เห็นได้ผลเต็มร้อย จึงผลิตออกมาในรูปแบบอาหารเสริมพืช คือ "โอทู ฟลาโวเจน" นั่นเอง

"โอทู ฟลาโวเจน เป็นสารฟลาโวนอยด์ ที่มีคุณสมบัติเร่งการเจริญเติบโตของพืชได้มากกว่าสารตัวอื่นที่มีอยู่ในท้องตลาด เป็นความพิเศษที่เรียกว่า เป็นความมหัศจรรย์ก็ได้ เกษตรกรเขาเรียกว่า เป็นสารเทวดา เป็นเรื่องจริงที่ผ่านด่านทดสอบ 3 ขั้นตอน ที่สามารถมั่นใจได้ อะไรที่เป็นวิทยาศาสตร์ มันสามารถยืนยันได้เลย เพราะเป็นวิทยาศาสตร์ชั้นสูง มันหลอกกันไม่ได้ หากเรานำไปวิเคราะห์ หากเป็นของปลอมมันจะฟ้องเลย มีหลักฐานชัดเลย อันนี้หลอกกันไม่ได้"

เนื่องจาก "โอทู ฟลาโวเจน" เป็นสารสกัดจากพืชสมุนไพร ในกลุ่มสารฟลาโวนอยด์ มีฤทธิ์คล้ายฮอร์โมนพืช แต่มีประสิทธิภาพสูงกว่าพืชทั่วไปถึง 10,000 เท่า ทำหน้าที่เป็นสารต้านแมลง และโรคพืช ทำหน้าที่ป้องกันพืชสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม
"เมื่อเทียบกับสารตัวอื่นๆ สามารถชี้ชัดได้ว่า การสารฟลาโวนอยด์ (โอทู ฟลาโวเจน) เพิ่มผลผลิตได้ 30-300 % การใช้สารเคมีเกษตร (เกษตรอินทรีย์) เพิ่มผลผลิตได้ 30 % การใช้วิธีดัดแปลงพันธุกรรม (เกษตรจีเอ็มโอ) เพิ่มผลผลิต 30% การใช้สารอินทรีย์ (เกษตรอินทรีย์ทั่วไป) เพิ่มผลผลิต 10 % การใช้จุลินทรีย์ (เกษตรชีวภาพ) เพิ่มผลผลิต 10 % การใช้สารสกัดจากสัตว์ เช่น ไคโตซาน แมลงปีกแข็ง และอื่นๆ เพิ่มผลผลิต 15% ทั้งหมดนี้ คือ ข้อมูลทางวิชาการที่ทำการวิจัยมาแล้ว และในต้นปี 53 นี้ บริษัท โอทูฯ จะออกผลิตภัณฑ์ใหม่อีก 1 ตัว คือ "ยาฆ่าหญ้า" ฉีด 3 ชั่วโมงหญ้าตายทันที สกัดมาจากธรรมชาติอีกเช่นกัน ไม่มีพิษต่อร่างกายมนุษย์ เชื่อว่าคงจะได้รับความนิยมอย่างสูงแน่นอน" ดร.สยามรัฐกล่าว

นายฉัตรชัย ประเสริฐสุวรรณ ประธานกรรมการ บริษัท โอทูฯ เปิดเผย "ตลาดวิเคราะห์" ว่า หลังบริษัทฯ มีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็วมียอดขายเป็นที่พอใจอย่างมาก นับตั้งแต่การใช้สื่อทีวีเข้ามาช่วยในการทำตลาด สามารถกระจายสินค้าสู่มือผู้บริโภคได้โดยตรง ส่งผลให้เกษตรกรไทยมีโอกาสได้ใช้สินค้าที่ดี เพิ่มผลผลิตได้ชัดเจน "ผมจึงมีนโยบายให้ทีมผู้บริหาร และผู้นำคอยให้การสนับสนุนเกษตรกรไทยให้สามารถลืมตาอ้าปากได้เต็มที่ เพราะการทำอาชีพเครือข่าย คือ การสร้างอนาคตร่วมกันระหว่างบริษัทกับผู้บริโภคอย่างไร้ขีดจำกัด เมื่อประชาชนมีชีวิตที่ดีขึ้น ปัญหาสังคมก็จะลดลงไป"

นายภณเอก สะอาดวงค์ รองประธานกรรมการ บริษัท โอทูฯ กล่าวว่า จากการตื่นตัวของเกษตรกรไทยที่ใช้ "โอทู ฟลาโวเจน" เห็นผลภายในขวดเดียว ส่งผลให้การขยายตลาดเป็นไปอย่างรวดเร็ว จนบริษัทฯ ต้องปรับกลยุทธ์ในการจัดส่งครั้งใหญ่
"แม้บริษัทฯ จะมีตัวแทนจำหน่ายอยู่กว่า 120 อำเภอก็ตาม ก็ยังให้บริการไม่เพียงพออยู่ดี ยังต้องการเพิ่มตัวแทนจำหน่าย 1 อำเภอ 1 ตัวแทน เพื่อให้ครบ 900 อำเภอ ภายใน 1-2 ปีนี้ คอยไว้บริการเกษตรกรทั่วประเทศ จะเห็นว่า กลุ่มลูกค้าต่างก็รอใช้สินค้าโอทู ฟลาโวเจนอยู่แล้ว แต่สมาชิกของเรายังไม่เพียงพอต่อการให้บริการ ฉะนั้น ผู้นำของเราเวลานี้สนุกอยู่กับการขยายเครือข่ายเป็นอย่างมาก ไม่ได้หลับได้นอน ทำให้เกิดรายได้แบบก้าวกระโดด เนื่องจากมีประชาชนที่ดูรายการทีวีโทรมาสั่งซื้อจำนวนมาก ทำให้ยอดขายบริษัทพุ่งขึ้นทุกเดือนเติบโตสวนกระแส"

นายขวัญชัย ปิยะทัศน์ กรรมการบริหาร และผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด กล่าวว่า การใช้สื่อทีวีดาวเทียมถือเป็นหัวใจสำคัญในการทำตลาดของบริษัท โอทูฯ เนื่องจากเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคถึงในห้องนอน ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ใช้ช่องทางนี้เต็มที่ ออกอากาศทุกวันๆ ละนับ 10 รอบ เช่น ช่อง IN TV วันละ 6 รอบทุกวัน ทางช่อง MV StarChannel ทุกวันศุกร์-เสาร์ ช่วง 1 ทุ่มครึ่ง และช่อง Bangkok Today ออกอากาศทุกวัน และในปี 2553 นี้ บริษัทฯ มีแผนจะเพิ่มอีกหลายรายการ เป้าหมายเพื่อส่งเสริมให้สมาชิกทำงานง่ายขึ้นนั่นเอง ส่วนแผนการจ่ายผลตอบแทน เราไม่เป็นสองรองใคร ไม่ต้องจับคู่จ่าย ขายได้เดี่ยวๆ ก็รับไปเลย ขวดละ 500 บาท ยิ่งเวลานี้บริษัทฯ มีแคมเปญเด็ดเพื่อส่งเสริมให้สมาชิกมีรายได้ 88 ล้านบาท แบบง่ายๆ นั่นคือ การสร้างเครือข่ายธุรกิจ เพียงแนะนำฐานผู้บริโภคที่ต้องการรวยแค่ 5 คน ทุกคนทำเหมือนกั้นหมดลึก 7 ชั้น ก็จะมีรายได้ 88 ล้านบาททันที ซึ่งไม่ยาก เนื่องจากสินค้าอย่างโอทู ฟลาโวเจน ใช้แล้วเห็นผลใน 3 วัน และหมดไป เป็นที่ต้องการของตลาดเกษตรที่มีมูลค่าเกือบ 3 แสนล้านบาท ถือเป็นนวัตกรรมการเกษตรสูงสุดเพียงหนึ่งเดียวที่มีความโดดเด่นจับต้องได้

"ในปลายปีนี้ บริษัทฯ เตรียมจัดงานเกียรติยศขึ้น ซึ่งจะเป็นงานใหญ่ระดับชาติ เพียบพร้อมไปด้วยความบันเทิงเต็มรูปแบบ พร้อมจับรางวัลมากมายสำหรับประชาชนที่มาร่วมงาน เชื่อว่า ในยุคนี้ยังไม่มีบริษัทขายตรงรายได้ที่คิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ ล้ำหน้าวงการเกษตรไทยไปนับ 10 ปี คือ ใช้ขวดเดียวเห็นผลทันใจ ใช้ได้กับพืชทุกชนิด เพิ่มผลผลิตได้ชัดเจน" นายขวัญชัยกล่าว


ที่มา : หนังสือพิมพ์ตลาดวิเคราะห์ ฉบับที่ 258 ประจำวันที่ 1-15 ตุลาคม 2552

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น